ยิ่งมีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทุกข์

 


  ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้เป็นเรื่องสมมุติ เงินก็เป็นกระดาษหนึ่งแผ่นที่มนุษย์สมมุติขึ้นมา วันใดที่เราเจ็บป่วย หรือนอนติดเตียง หรือใกล้ตายเราคงไม่อยากได้เงินแล้ว เพราะถึงเวลาเอาเงินมาต้มกินก็ไม่หายป่วย เอาเงินไปให้แพทย์ที่เก่งที่สุดในโลก เค้าก็ไม่มีวันรักษาเราให้พ้นจากความตายได้

   ส่วนลาภยศ ไม่ต้องรอตายก็เห็นแล้วว่ามันคงอยู่ไม่นาน พอเกษียณแล้วลาภยศก็หายไปใช่ไหม อำนาจที่แย่งชิงกันหนักหนา คิดว่ามันคงทนหรือ

   ทุกอย่างบนโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่าง ลองคิดดูว่าจริงไหม ทรัพย์สิน เงินทองที่ได้มาก็มีวันหมด ต้องหามาเติมอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าหากเราจะยังใช้ชีวิตอยู่ในทางโลกก็ต้องใช้เงิน

   แต่ขอให้จำไว้เสมอว่าเมื่อไร้ชีวิต เงินก็ไร้ค่า

   ดูแลและรักตัวเองให้มากกว่าคนอื่น รักตัวเองไม่ใช่การเห็นแก่ตัว รักตัวเองทำได้ไม่ยากเราทุกคนต่างรู้แต่ก็ไม่ทำ กินอาหารที่ดีต่อร่างกาย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และอื่นๆอีกมากมาย เรารู้แต่ไม่ทำจริงไหม เอาแต่บอกว่าไม่มีเวลาๆ ถ้าไม่มีเวลาแล้วคุณมีเวลามาอ่านบทความนี้ได้อย่างไร สิ่งดีๆที่เราสามารถมอบให้ตัวเองได้นั้น เราสามารถทำได้ทุกวัน ผ่านกระทำเล็กๆน้อย ออกกำลังกายวันล่ะ 5 นาทีมันก็คือการออกกำลังกาย แค่5นาทีเราทำไม่ได้เชียวหรือ เรื่องอื่นๆก็เช่นกัน เรามักจะละเลยมันอยู่เสมอ กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว

   ไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพกาย สุขภาพใจของเราก็ต้องดูแลรักษามันให้ดี หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตเรา เราล้วนขับเคลื่อนมันด้วยความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกอยากทำ หรือไม่อยากทำ อยากหนี อยากสู้ ล้วนขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของเรา

จิตใจห่อเหี่ยวเมื่อผิดหวังหรือไม่ได้ดั่งใจ 

จิตใจฟูฟ่องเมื่อสมหวังหรือเป็นอย่างใจหวัง

บนโลกใบนี้ อย่ายึดมากนักเลย ทุกข์ก็ชั่วคราว สุขก็ชั่วคราว เฉยๆก็ชั่วคราว

   ขออนุญาตยกคำเทศนาของท่านว.วชิรเมธีมาอธิบายให้เห็นภาพ ท่านเล่าถึงสมัยพระพุทธกาล มีชายผู้หนึ่งเลี้ยงวัวเอาไว้ แต่อยู่มาวันหนึ่งวัวเหล่านั้นกลับหายไป ชายผู้นั้นทุกข์ใจมาก เมื่อเดินตามหาวัวก็ได้เจอกับพระพุทธเจ้า

พระพุทธองค์ได้ถามชายผู้นั้นว่า "ท่านกำลังหาอะไรอยู่หรือ"

ชายผู้นั้นก็ได้ตอบกลับไปว่า "ข้ากำลังตามหาวัวที่หายไป ขอรับ"

พระพุทธองค์ได้ถามชายผู้นั้นอีกว่า "ท่านคิดว่าข้ามีวัวไหม"

ชายผู้นั้นก็ได้ตอบกลับไปว่า "ไม่มี ขอรับ"

พระพุทธองค์ตรัสว่า "คนไม่มีวัวอย่างฉัน มีโอกาสทุกข์เพราะไม่มีวัวไหม ?”

ชายผู้นั้นก็ได้ตอบกลับไปว่า : “ไม่มี ขอรับ”

พระพุทธองค์ตรัสว่า : “เห็นไหมว่า คนมีวัว ทุกข์เพราะวัว คนไม่มีวัว ก็ไม่ทุกข์”

   ถ้าเอาให้เหมาะกับสมัยปัจจุบันถ้าเราไม่มีรถ เราจะทุกข์เพราะรถพังหรือหายไหม ถ้าเราไม่มีโทรศัพท์ เราจะทุกข์เพราะโทรศัพท์หรือไม่

   ที่เราเป็นทุกข์เพราะเรายึดว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นของเรา ถ้ารถของคนข้างบ้านหาย เราจะทุกข์ใจไหม

  ยิ่งมีสิ่งใดที่เราคิดว่าเป็นของเรามากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีความทุกข์มากเท่านั้น

  ทุกสิ่งทุกอย่างถ้าเรายึดมั่น ถือมั่นว่าเป็นของเรา หรือตัวกู ของกูเมื่อไหร่ เราจะทุกข์ใจเมื่อนั้น เหมือนดั่งที่ท่านพระพุทธทาสพูดไว้ไม่ผิดเลย


อ่านเพิ่มเติมบทความเรื่องคนเลี้ยงวัว









โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรียนรู้ลายมือไปด้วยกัน (1) : ความรู้เบื้องต้น และการเรียกชื่อเนินบนฝ่ามือ

การถูกด่า หรือถูกนินทาคือความธรรมดาของโลกใบนี้

หนังสือที่ควรซื้อเป็นของขวัญให้แก่คนที่คุณรัก